วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

คลิปเด็ด : งานศิปละสุดบ้า!!!



ศิลปะจุ๋มจิ๋ม

ศิลปินสุดแนว หล่ออวัยวะเพศหญิง เก็บสะสมเป็นงานศิลปะ จิ๋มส์ ก็ไม่ทราบว่าเค้าต้องการอะไร 5555 ขำคนภาคมาก




สิ่งมีชีวิตสุดบรรยาย 

ผลงานสุด เอิ่ม ของ แพทริเซีย ปิกซินินี่ เป็นสิ่งมีชีวิตแปลกๆ จนมีหนึ่งในงานศิลปะชิ้นนึง (บางท่านอาจะเคยเห็น) มีคนมาอ้างว่าเป็นคนที่ทำความผิดไว้จนมีรูปร่างผิดปกติ แต่จิงๆแล้วมันคือศิลปะงานปั้นที่เหมือนจิงโพดๆ ของ แพทริเซีย ปิกซินินี่  เองนี่จ้า


ชายผู้สร้างศิลปะจากเลือด!!

Marc Quinn จิตกรที่สร้างผลงานแปลกๆเช่น รูปปั้นชายมีจิ๋ม หญิงมีจู๋ - - แถมยังปั้นตอนที่กำลังป๊าปๆโซเดมาคอมอยู่ด้วย แต่นี่ไม่แปลกหรอก ที่แปลกสุดๆๆๆๆคือ เค้าเอา เลือดของตัวเองมาแช่เย็นจนเป็นรูปหน้าของเค้าเอง !! โอ้ ตายหอง!!



จิตกรสุดซวย และแปลก


อันนี้ไม่มีคลิปนะครับ TT แต่มีเนื้อหาและรูป จาก everyday

ในปี ค.ศ.1885 ศิลปินชาวญี่ปุ่น Hananuma Masakichi พบว่าตัวเองกำลังป่วยและจะเสียชีวิตจากโรควัณโรค เขาจึงได้สร้างหุ่นจำลองตัวเองขึ้นมาเพื่อเป็นของที่ระลึกให้กับหญิงคนรัก
Masakichi สร้างผลงานขึ้นในห้องที่เต็มไปด้วยกระจกเพื่อเขาจะได้เห็นรายละเอียดทุกอย่างของร่างกายตัวเอง ตั้งแต่เส้นเลือดไปจนถึงรูขุมขน หุ่นนี้ทำขึ้นจากไม้สีเข้มยึดต่อกันด้วยหมุด กาว และสลัก ซึ่งรอยต่อทั้งหมดนี้แนบเนียนเสียจนมองไม่เห็นแม้จะใช้แว่นขยายส่องดูก็ตาม และที่สุดยอดไปยิ่งกว่านั้นคือ หุ่นจำลองนี้มีชิ้นส่วนจริงๆ ของตัวศิลปินอยู่ด้วย
เพื่อที่จะได้หุ่นจำลองที่ตรงกับของจริงที่สุด Masakichi ดึงเส้นผมและเล็บของตัวเองใส่ไปให้ตำแหน่งเดียวกับร่างกายของเขา ถึงขนาดใช้สว่านเล็กๆ เจาะพื้นผิวให้เป็นรูขุมขนเหมือนของจริง และมีการบันทึกไว้ว่าเขาถึงกับถอนฟันของตัวเองออกมาใส่ให้กับหุ่นอีกด้วย
150272
หลังจากเขาสร้างหุ่นเสร็จสิ้นแล้ว Masakichi จัดงานแสดงผลงานของตัวเองโดยเขาไปยืนอยู่ข้างๆ หุ่นแล้วให้ผู้คนเดากันว่า อันไหนคือคนจริง อันไหนคือหุ่นจำลอง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว Masakichi ก็กลับรอดชีวิตจากโรควัณโรค และอยู่ต่อไปอีก 10 ปี ในสภาพที่ถูกแฟนสาวทิ้ง หมดตัว และอาจจะไม่มีฟันเหลือด้วย หุ่นจำลองของเขาถูกขายไปให้กับ Robert Ripley ผู้ก่อตั้ง Ripley’s Believe It or Not ในราคาเพียง 10 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
Masakichi

อ้วกเป็นศิลปะ

ในบรรดาผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ดูเหมือนกับเป็นภาพที่ใครมาอาเจียนใส่ หนึ่งในนั้นคืองานของ Millie Brown ศิลปินสาวสร้างผลงานภาพวาดขึ้นมาจากอาเจียนของเธอจริงๆ
ในการสร้างผลงาน Brown จะไม่กินอะไรเลยเป็นเวลาก่อนหน้านั้น 2 วัน เพื่อไม่ให้มีเศษอาหารไปปนอยู่ในผลงาน หลังจากนั้น เธอจะดื่มนมที่ผสมสีต่างๆ เข้าไป ล้วงคอ แล้วอาเจียนเอาสีออกมาลงบนผืนผ้าใบ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมงให้การทำให้เสร็จสิ้น
นอกจากขายผลงานที่ทำเสร็จเป็นชิ้นแล้ว เธอยังเปิดแสดงการสร้างผลงานต่อหน้าผู้ชมอีกด้วย (ดูเสร็จแล้วคงแทบจะไปคายของเก่าสร้างผลงานของตัวเองออกมาบ้าง) ซึ่งผลงานแบบชิ้นนี้ ขายได้ถึง 2,400 เหรียญดอลล่าร์
ถึงแม้จะดูไร้สาระแค่ไหน Brown ก็มีชื่อเสียงจากผลงานของเธอมาก ถึงขนาดได้รับเชิญให้ไปอาเจียนใส่ Lady Gaga ในวิดีโอที่ใช้ฉายในการแสดงคอนเสิร์ต Monster Ball Tour อีกด้วย


โถ กาก้าเอ๊ยยย ไม่รุ้สึกหน่อยหรอ TT อ้วกกนะโว้ยย อ้วกกก!!!!



ศิลปะจากซากศพ จริงๆ!! น่ากัวสาดดดดด !!

Honore Fragonard เป็นนักกายวิภาคชาวฝรั่งเศสในช่วงยุคศตวรรษที่ 18 เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนักวาดภาพที่มีชื่อเสียง Jean-Honore Fragonard และอาจจะด้วยสาเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจเข้าสู่โลกแห่งศิลปะด้วยคน ด้วยการเปลี่ยนร่างคนตายให้กลายเป็นรูปแกะสลัก
Fragonard ได้ศพที่ใช้สร้างผลงานมาจากลานประหาร โรงเรียนแพทย์ หรือแม้แต่ศพที่ขุดมาจากหลุมแบบสดๆ ร้อนๆ จากนั้นก็ใช้วิธีการเก็บรักษาศพที่เป็นความลับซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าใจว่าทำอย่างไร แต่จากเท่าที่้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันศึกษาดู พบว่าศพเหล่านี้ถูกฉีดด้วยของเหลวจากสารบางอย่างที่เขาคิดค้นขึ้น จากนั้นก็แยกชิ้นส่วนร่างกายออกมาก่อนจะติดมันกลับเข้าไปให้อยู่ในท่าทางต่างๆ  บางครั้งก็มีการรวมชิ้นส่วนของสัตว์เข้าไปในผลงานด้วย และท้ายที่สุด ก็ทาน้ำมันให้ทั่วเพื่อกันแมลง
Fragonard สร้างผลงานด้วยวิธีนี้ขึ้นมาประมาณ 700 ชิ้น ซึ่งมีเพียง 21 ชิ้นเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ และหนึ่งในชิ้นที่โด่งดังที่สุดก็คือร่างกายผู้ชายเหลือแต่กระดูกที่กำลังขี่ม้าที่เหลือแต่กระดูกเหมือนกัน ความจริงแล้วแต่ก่อนผลงานชิ้นนี้จะประกอบด้วยตัวอ่อนของทารกมนุษย์ แกะ และม้าจำนวนมากอีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทราบว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่
Fragonard สร้่างผลงานเหล่านี้ขึ้นมาขณะที่เขารับตำแหน่งเป็นเป็นศาสตราจารย์คนแรกอยู่ในโรงเรียนสำหรับสัตวแพทย์แห่งแรกของโลกเป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1771 เขาก็ถูกไล่ออกด้วยข้อหาว่าเป็นคนวิกลจริต




ศิลปินปล่อยให้ผู้ชมทำอะไรก็ได้กับตัวเอง

ศิลปินในหัวข้อบนๆ ส่วนมากจะสร้างผลงานขึ้นมาโดยการทำร้ายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใช้เลือดตัวเอง ดึงเล็บตัวเอง หรือทำให้ตัวเองอาเจียน แต่สำหรับ Marina Abramovic ศิลปินสาวชาวเซอร์เบีย เธอปล่อยให้คนดูเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับร่างกายเธอ และแน่นอนว่าผลที่ได้ไม่น่าดูนัก
ก่อนหน้านี้ เธอทำการแสดงศิลปะมาก่อนหลายชิ้น เช่น การแทงนิ้วตัวเอง และการนอนอยู่กลางกองไฟที่เกือบทำให้เธอเสียชีวิต ใีนปี ค.ศ.1974 เธอตัดสินใจสร้างผลงานการทำร้ายตัวเองให้สูงขึ้นไปอีกขั้นด้วยผลงานที่ชื่อว่า “Rhythm 0,” โดยการยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะที่มีของวางอยู่ 72 ชิ้น รวมถึงอาวุธอันตรายเช่น ปืน โซ่เหล็ก ขวาน และใบมีดโกน นอกจากนั้น จะมีป้ายบอกเหล่าผู้ชมว่า พวกเขาสามารถใช้ของบนโต๊ะเหล่านี้ทำอะไรก็ได้กับ Abramovic โดยที่เธอจะไม่พูดอะไรและไม่ขัดขืนเริ่มแรกผู้ชมพากันลองแหย่เธอเล่นๆ อย่างพยายามจั๊กกะจี้เธอด้วยขนนก หรือเอาเสื้อโค้ทมาแขวนไว้ตามตัวเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปปฏิกิริยาของผู้ชมก็เริ่มก้าวร้าวขึ้น บางคนฉีกเสื้อผ้าเธอออกและเอาหนามกุหลาบกดลงไปบนตัวเธอ บางคนก็ใช้มีดกรีดตามตัวเธอ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มีบางคนเอาปืนที่มีกระสุนอยู่จ่อไปที่เธอ แต่ Abramovic ก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด การแสดงนี้กินเวลา 6 ชั่วโมง 
หลังจาก 6 ชั่วโมงผ่านไป Abramovic ก็เริ่มขยับแล้วเดินเข้าไปในกลุ่มผู้ชม ซึ่งพากันแตกตื่นและวิ่งหนีไปหมด ส่วนที่แปลกที่สุดของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ไอเดียการแสดงแปลกๆ แบบนี้เท่านั้น แต่เป็นการที่คนธรรมดาที่มาชมงานศิลปะกลายเป็นคนที่พร้อมทำอันตรายคนอื่นได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น น่าจะถือได้ว่าการแสดงของเธอครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี


ขอขอบคุณ everyday

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น