วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คลิปเด็ด : สงคราม ข่มขืน โหดร้าย เอาเปรียบ ประจาน! แฉจนเกลี้ยง!!





หญิงชราชาติเกาหลี เธอถูกบังคับให้เป็นทาสทางเพศโดยกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
และเทอก็เก็บเงียบไว้เป็นเวลา 50 ปีจนปัจจุบันเทอก็ได้ออกข่าวอย่างที่เห็น แน่นอนว่าประเทศญี่ปุ่นไม่ยอมรับข่าวเรื่องนี้ปฎิเสธออกมาอย่างชัดเจน



การข่มขืนที่นานกิง มีหญิงสาวจำนวนมากที่ถูกทำเป็นนางบำเรอ
ให้แก่ทหารญี่ปุ่น จากรูปแล้วหลังจากที่ข่มขืนเสร็จก็ฆ่าทิ้งหรือหนีไปได้
 มีผู้ประสบเหตุเล่ามาว่า ทหารญี่ปุ่นยิงพ่อของเค้า ข่มขืนน้องสาว
และดูดนมแม่ของเค้า จากนั้นก็ข่มขืน พวกเขาเอาดาบที่ปลาย
ปืนฆ่าเด็กทารกทิ้ง อย่างโหดร้าย แล้วจากนั้นก็ฆ่าคุณปู่แล้วก็ตบหน้าของ
เขา และฆ่าน้องสาววัย 3 ขวบของเขาอีก และทหารญี่ปุ่นก็นำตัวพี่สาว
ของเขาไปรุมข่มขืน เขาเห็นพี่สาวของเค้าเต็มไปด้วยเลือดและ
สภาพที่เห็นอวัยวะเพศนองเลือดอย่างเอน็ดอนาถ ผู้ที่เป็นเจ้าของเหตุการณ์
คือ Xia Shu qin ตอนนั้นเค้าอายุเพียง 7 ปีแต่ต้องเจอสิ่งโหดร้าย
เช่นนี้ และนอกจากเค้าแล้วยังมีผู้พบชะตากรรมเช่นนี้อีกมากในนานกิง
มีหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เทอถูกแทงด้วยปลายมีดที่ปืน 33 ครั้งแต่เทอไม่ตาย!!
พวกทหารญี่ปุ่นคิดว่าเทอตายไปแล้ว เจ้าของเหตุการณืคือ Li Hsiu yin
มีการเผาบ้านของชาวนานกิง พวกทหารญี่ปุ่น ให้คนที่อยุ่ในที่ตั้งชื่อว่าเขตปลอดภัย (ไม่ปลอดภัย)
ให้ชาวนานกิงที่จนๆอยู่ แน่นอนว่าเปรียบเหมือนทาสนั่นเอง
ทหารชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อ Takoro Kozo ออกมายอมรับว่า ไม่ว่าอย่างไร ผู้หญิงไม่ว่าจะแก่หรือเด็ก
ก็ไม่สามารถหนีจากการถูกข่มขืนได้ มีการรุมข่มขืนผู้หญิงโดยนายทหารถึง 20 คนพวกทหารผลัดกันข่มขืน ผู้หญิง หญิงสาวบางคนที่มีการศึกษาดีหน้าตาดีมีความรู้ ถึงขั้นต้องไปเป็นนางบำเรอให้กับผู้พันหรือทหาร  ผู้หญิงบางคนถูกข่มขืนแล้วควักไส้ควักพุงออกมากเละเทะ  และแน่นอนว่า ญี่ปุ่นไม่ยอมรับทั้งที่มีรูปเป็นหลักฐานขนาดนี้ !!


หนังสงครามนานกิงที่นำเนื้อความบางส่วนมาจากเรื่องจริง





อเมริกาต้องการทรัพยากรจากเวียดนามซึ่งแน่นอนว่า ชาวเวียดนามไม่ยอม อเมริจึงใช้วิธีสกปรก ใช้ฝนเหลือง หรือชื่ออังหฤษเรียกว่า Agent Orange ทำให้ชาวเวียดนาม   แท้งลูก  ทารกตายในท้อง  ทารกพิการแต่กำเนิด น้ำนมในมารดาที่ตั้งครรภ์มีสารไดออกวินเยอะเกินและเกิดโรคผิดปรกติต่างๆนับไม่ถ้วนเหมือนอย่างที่ในคลิป แน่นอนว่าฝนเหลืองทำให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตราย สารพิษแทรกซึมลงในพื้นดินทำให้พืชพรรณอาหารของเวียดนามมีสารพิษ รัปประทานแล้วอาจเกิดโรคร้ายได้ ทำให้ผักของชาวเวียดนามขายไม่ค่อยออกเพราะฝนเหลืองด้วยเช่นกัน จากนั้นเวลาผ่านไป 37 ปีมีผู้ประสบกับโรคร้ายมามากแล้วอเมริกากับเวียดนามก็เพิ่งจะร่วมกันชะล้างฝนเหลือง แต่อย่างไรก็ตามในความคิดของหลายๆคนคงคิดว่า สารเคมี ฝนเหลืองคงไม่ได้ล้างกันง่ายๆแน่ อย่างน้อยคงมีหลงเหลืออยู่บ้างหรืออาจจะต้องใช้เวลาราว 200 ปีถึงจะหมดไปจนสิ้น 



การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโระชิมะและนะงะซะกิ เป็นการโจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แฮร์รี เอส. ทรูแมน เมื่อ พ.ศ. 2488 หลังจากการโจมตีทิ้งระเบิดเพลิงตามเมืองต่างๆ 67 เมืองของญี่ปุ่นอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาติดต่อกันถึง 6 เดือน การระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ฮิโระชิมะ 140,000 คนและที่นะงะซะกิ 80,000 คนโดยนับถึงปลายปี พ.ศ. 2488 จำนวนคนที่เสียชีวิตทันทีในวันที่ระเบิดลงมีจำนวนประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนที่กล่าวนี้ และในระยะต่อมาก็ยังมีผู้เสียชีวิตด้วยการบาดเจ็บหรือจากการรับกัมมันตภาพรังสีที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการระเบิดอีกนับหมื่นคน ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดในทั้ง 2 เมืองเป็นพลเรือน


สงครามเยอรมันกับยิว ผู้นำคือฮิตเลอร์ ที่รู้จักกันดีว่าโหดร้ายมากๆในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แต่อย่าฟังความข้างเดียวถึงแม้ว่าเยอรมันจะโหดร้ายที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ยังไม่มีใครทราบซะทีว่าทำไมต้องฆ่ายิวจริงๆ ทำไมถึงมีหลายประเทศเกลียดเยอะล่ะ ?? 

แต่ก่อนชาวยิวมีธรรมเนียมการทำธุรกิจ ปัจจุบันหลายประเทศถือว่าผิดกฎหมายเช่น
สมมติ ชาวยิวกลุ่มหนึ่ง เป็นลูกหลานของกิจการค้าเพชรพลอยที่มั่งคั่ง
กิจการเพชรพลอยร่ำรวย และอิ่มตัวแล้ว ต้องหาทางลงทุนในกิจการอย่างอื่น
กลุ่มนายทุนชาวยิวจะมาประชุมกัน สมมติว่าตกลงจะลงทุนในธุรกิจรองเท้า

ชาวยิวจะให้ทุนลูกหลาน คนรุ่นใหม่ ไปลงทุนทำโรงงานรองเท้า
ไม่ทำแค่โรงเดียว แต่จะทำหลายโรงงาน หลายยี่ห้อ พร้อมๆกัน
ตอนแรกจะยอมขาดทุน โดยอาศัยเงินทุนจากกิจการเพชรพลอยหนุนหลัง
เพื่อกดดันให้โรงงานรองเท้าของคนเยอรมันเลิกกิจการ

เมื่อโรงงานรองเท้าอื่นเริ่มประกาศขายกิจการ ยิวก็จะเข้าไปซื้อกิจการเพิ่ม
พอยิวมีส่วนแบ่งรวมในตลาดมากพอ ก็จะกดดันร้านขายรองเท้า
โดยสร้างเงื่อนไขว่า ต้องซื้อรองเท้าจากโรงงานของชาวยิวเท่านั้น
ถ้าพบว่าร้านขายรองเท้าแห่งใด ซื้อรองเท้าจากโรงงานของคนเยอรมัน
โรงงานรองเท้าทั้งหมดของยิว จะไม่ยอมขายรองเท้าให้ ด้วยข้ออ้างต่างๆ เช่น ผลิตไม่ทัน
เมื่อยิวบีบให้ร้านขายรองเท้าต้องซื้อรองเท้าจากโรงงานของชาวยิวเท่านั้น
โรงงานรองเท้าของคนเยอรมันที่เหลือ ก็เจ๊งหมด
แล้วยิวก็เข้าไปกดราคาบังคับซื้อเอาถูกๆ

พอยิวได้ครอบครองโรงงานรองเท้าทั้งหมด ก็เริ่มตั้งร้านขายรองเท้าของตนเอง
ส่วนคนงานเย็บรองเท้าก็เริ่มถูกกดค่าแรง ไม่มีทางย้ายที่ทำงาน เพราะโรงงานทั้งหมดเป็นของยิว
โรงงานยิว จะขายรองเท้าให้ร้านของชาวยิวในราคาถูกพิเศษ แบบไม่เอากำไร
ทำให้ร้านรองเท้าของชาวยิวสามารถขายปลีกรองเท้าในราคาถูกกว่าร้านของคนเยอรมัน
ร้านขายรองเท้าของเยอรมันก็ค่อยๆทะยอยปิดกิจการลง ยิวก็เข้าไปกดราคาซื้อต่อกิจการ

ในที่สุดยิวก็ครอบครองร้านขายปลีกรองเท้าได้ทั้งหมด
เมื่อยิวครอบครองธุรกิจรองเท้าได้ครบวงจรทั้งหมดแล้ว
ถึงเวลาที่ยิวจะขึ้นราคารองเท้า ฟันกำไรชดเชยกับที่ยอมขาดทุนในตอนแรก

อุตสาหกรรมทำรองเท้าของคนเยอรมันเจ๊ง 
ธุรกิจร้านค้ารองเท้าของขาวเยอรมันเจ๊ง
คนงานที่มีอาชีพเย็บรองเท้าถูกกดค่าแรง
ประชาชนเยอรมันต้องซื้อรองเท้าแพง

คนเยอรมันจะรู้สึกอย่างไร

ผ่านไปหลายปี บรรดาลูกหลานชาวยิวในธุรกิจรองเท้าเริ่มเติบโต แต่ธุรกิจรองเท้าอิ่มตัวแล้ว
ขาวยิวก็จะประชุมกัน ว่าจะยึดครองการค้าชนิดใดต่อไป

บางที ความโลภ และความไร้ยุติธรรม ของชาวยิวนั่นเอง ที่ฆ่าชาวยิว 

บทความนี้มาจาก

แต่ทหารเยอรมันก็โหดร้ายเช่นกัน ถึงอย่างไรการเกิดเหตุสงครามมีการข่มขืน ฆ่า ทรมาน แต่ถ้าเทียบสถิติแล้วการข่มขืนในสงครามเยอรมันกับยิวไม่เท่าญี่ปุ่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องมีเหตุและผลที่คล้องจองกันในการที่จะเกิดสงครามขึ้นการกระทำของยิวอาจทำให้ชาวเยอรมันถูกเอารัดเอาเปรียบจนหมดทางสู้จึงต้องก่อสงครามขึ้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น