วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คลิปเด็ด : ทะเลสวย แปลกประหลาด น่าเที่ยวที่สุดในโลก



เนื้อหาบางส่วนมาจาก everyday-readers
                dek-d


Jelly Fish Lake, Palau — ทะเลสาบแมงกระพรุน ประเทศปาเลา
ประเทศปาเลาเป็นหมู่เกาะที่เคยเชื่อมต่อกับทะเลมาก่อน จนเมื่อประมาณ 12,000 ถึง 15,000 ปีมานี้ หินปูนได้ก่อตัวขึ้นและกั้นทะเลสาบบนเกาะออกออกจากทะเลใหญ่ และมีแมงกระพรุนบางตัวถูกขังไว้ในทะเลสาบ ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่โด่ดเดี่ยวไม่มีผู้ล่า แมงกระพรุนเหล่านี้จึงวิวัฒนาการและขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันนี้ มีแมงกระพรุนกว่า 10 ล้านตัวอาศัยอยู่ในทะเลสาบ ซึ่งได้วิวัฒนาการกลายเป็นสายพันธุ์ไม่มีพิษ และไม่อันตราย ทำให้เกาะนี้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาว่ายน้ำร่วมกับแมงกระพรุน เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษที่หาที่อื่นไม่ได้




Bioluminescent Bay, Puerto Rico 
Bioluminescent Bay, Puerto Rico — อ่าวเรืองแสง เปอร์โตริโก้ สหรัฐอเมริกา
ช่องน้ำแคบๆ ที่มีชื่อว่า Mosquito Bay บนเกาะ Vieques ในเปอร์โตริโก้ เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีความสามารถในการเรืองแสงเมื่อถูกรบกวน โดยน้ำในอ่าวนี้ 1 แกลลอน มีสิ่งมีชีวิตนี้อาศัยอยู่ถึง 720,000 ตัว เมื่อมีคนลงไปแหวกว่ายในน้ำ จะมีแสงสีเขียว ฟ้า สว่างขึ้นมาอย่างสวยงาม โดยเฉพาะถ้าเป็นคืนเดือนมืด แสงที่เกิดขึ้นจะสว่างมากขนาดที่ใช้อ่านหนังสือได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว อ่าวนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมมาว่ายน้ำ หรือพายเรือคายัก เพื่อชมความสวยงามในตอนกลางคืน




Devil’s Swimming Pool, Zambia – สระว่ายน้ำของปีศาจ ประเทศแซมเบีย
สระว่ายน้ำตามธรรมชาตินี้อยู่บนสุดของน้ำตก Victoria Fall ในประเทศแซมเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงขึ้นไปถึง 420 ฟุต ในฤดูร้อนที่น้ำไม่เยอะมากนัก จะเกิดเป็นสระน้ำธรรมชาติที่คนสามารถลงไปนั่งเล่นได้อย่างปลอดภัย โดยที่ฝั่งหนึ่งของสระจะเป็นขอบของน้ำตก มองลงไปด้านล่างก็จนเห็นพื้นน้ำด้านล่าง ทำให้ดูน่าหวาดเสียวมาก และเป็นที่มาของชื่อสระว่ายน้ำของปีศาจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีบันทึกว่ามีใครได้รับอันตรายจากการไปลงเล่นน้ำที่นี่ แต่ก็ยังออกจะน่ากลัวนิดๆ อยู่ดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องกล้าหาญพอสมควรและต้องการความตื่นเต้น




Dean’s Blue Hole, Bahamas — หลุมยุบใต้น้ำ ประเทศบาฮามาส
หลุมยุบที่บาฮามาสเองมีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นหลุมยุบใต้น้ำที่ลึกที่สุดในโลก และในช่วงหลังๆ มานี้ ก็ได้กลายเป็นจุดดำน้ำฟรียอดนิยม หลุมยุบนี้มีความลึก 663 ฟุต ถึงแม้จะไม่มีปะการังหรือสิ่งมีชีวิตใต้น้ำให้ดูมากนัก แต่นักท่องเที่ยวก็ชอบความสวยงามของน้ำสีน้ำเงินเข้ม และทรายสีขาวรอบๆ ปากหลุม ยิ่งในวันที่แดดแรง จะเห็นเป็นแสงส่องเข้าไปภาพในหลุมสวยงามมาก ใครที่ไม่กลัวการดำน้ำลึก หรืออยู่ใต้น้ำดำมืดที่มองไม่เห็นพื้น ควรจะลองไปเยี่ยมชมดูสักครั้ง


The Dead Sea, Jordan/Isreal — เดตซี ประเทศจอร์แดนและอิสราเอล
เดตซี ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นทะเลตามชื่อ แต่เป็นทะเลสาบ มีชื่อเสียงจากการเป็นทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก ความเข้นข้นของเกลือในทะเลสาบนี้มีมากจนทำให้น้ำมีความหนาแน่นมาก จนไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนอาศัยอยู่ได้กลายเป็นที่มาของชื่อ แต่สำหรับมนุษย์แล้ว เราสามารถลงไปลอยตัวเล่นอยู่ในน้ำโดยไม่ต้องทำอะไรได้เลย ทำให้สถานที่นี้เป็นที่นิยมมากอีกเหมือนกัน นักท่องเที่ยวโดยมากมักจะถ่ายรูปในท่าทางต่างๆ ที่ทำไม่ได้เวลาไปว่ายน้ำตามปกติ ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็จะได้ลองลงไปว่ายน้ำโดยไม่ต้องกลัวจม ส่วนใครที่ว่ายน้ำเป็นและพยายามจะว่าย ก็ลำบากหน่อย เพราะน้ำจะพยุงตัวไว้ตลอดทำให้ว่ายไม่ไปไหนเสียที แต่อย่าเผลอกินน้ำในทะเลสาบเข้าไปละกัน เพราะน้ำที่นี่รสชาติแย่สุดๆ
สุดยอดอนูประโยชน์ทะเลเดทซี


Chuuk (Truk) Lagoon, Micronesia — ชุก(ทรุก) ลากูน ประเทศไมโครนีเซีย
ชุก ลากูน หรือชื่อเดิมว่า ทรุก ลากูน อยู่ที่ประเทศไม่โคนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ จำนวนมาก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปาปัวนิวกินี และมีการปกครองแบบพึ่งพิงสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ดำน้ำที่ต่างจากรายการที่ผ่านมาแล้วนิดหน่อย ตรงที่ความสวยงามใต้น้ำ ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาตอ แต่เกิดจากความพยายามในการอนุรักษ์ประการังโดยการทิ้งซากเรือ  เครื่องบินโบราณ และโครงสร้างสิ่งของอื่นๆ ลงไปเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เมื่อดำลงไปสำรวจแล้ว จะเหมือนกับได้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มนุษย์ ล้อมรอบด้วยปะการังที่สวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของใต้ทะเล



Nemo 33, Belgium — นีโม 33 ประเทศเบลเยี่ยม
นี่ไม่ใช่แค่สระว่ายน้ำธรรมดา แต่เป็นสระว่ายน้ำที่ลึกที่สุดในโลกที่สร้างโดยฝีมือของมนุษย์ ด้วยความลึก 33 เมตร สระนี้ต้องใช้น้ำในการเติมมากกว่า 2,500,000 ลิตร ควบคุมอุณหภูมิที่ 30 องศาเซลเซียส สระนี้ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้มีช่องทาง อุโมงค์ำจำลอง และห้องมากมาย เปิดตัวในปี ค.ศ.2004 เพื่อเป็นสถานที่ฝึกดำน้ำ ซึ่งค่าสมัครใช้งานสระนี้เป็นเงินเพียง 22 ยูโรต่อปี ผู้มาใช้งานจะได้ดำน้ำสำรวจสภาพแวดล้อมในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย  และไม่ต้องกังวลกับคลื่นลม




algae bloom - ทะเลสาหร่าย
เหตุการณ์นี้คือทะเลที่เต็มไปด้วยสาหร่ายจริงๆ โดยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าปรากฏการณ์การระเบิดของสาหร่าย (algae bloom) หรือบางทีก็เรียกว่า น้ำขึ้นน้ำลงมรกต(green tide)ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทะเลเหลือง ประเทศจีน ซึ่งสาหร่ายนี้เป็นแพลงตอนพืช Enteromorpha prolifera เราสามารถพบได้ในทะเลทั่วโลก แต่มันจะเติบโตเร็วมากๆ เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสม คือ น้ำทะเลมีอุณหภูมิที่อุ่น น้ำมีแร่ฟอสฟอรัสและไนโตรเจนสูง ทะเลแบบนี้ไม่อันตรายนะคะ แต่อาจจะมีกลิ่นเหม็นอยู่พอสมควร มีใครอยากลองทำสปาบ้างมั้ย ฮ่าๆ



ทะเลสีเลือด Blood sea
             ในต่างประเทศมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลายที่เลยค่ะ เอาที่ไม่นานมานี้ ชายหาดบอนได ประเทศออสเตรเลีย ก็เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงสาเหตุก็มาจากที่ช่วงนั้นมีปริมาณธาตุอาหารในน้ำเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสาหร่ายที่อยู่บริเวณนั้นเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแพร่พันธุ์จำนวนมาก จนเปลี่ยนสีน้ำทะเลให้กลายเป็นสีแดงไป ซึ่งสีของน้ำสามารถเปลี่ยนเป็นสีอื่นๆ ได้อีกตามชนิดของแพลงตอนพืช เช่น สีน้ำตาล สีเขียว หรือสีเหลืองทอง


ทะเลโฟม
               แว๊บแรกที่เห็นทะเลโฟม ชวนให้นึกถึงฟองนมในกาแฟ (พูดแล้วหิว) โดยทะเลที่ว่านี้เกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อมีคลื่นพัดจากทะเลเข้ามาชายฝั่งแล้วแตกตัวเป็นฟองโฟมลอยแผ่เต็มทะเล   แม้ว่าจะดูเหมือนฟองสบู่น่าลงไปเล่น แต่ขอบอกว่าที่มาของมันอาจทำให้เปลี่ยนใจไปเลย เพราะมันเกิดจากสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกสารเคมี ของเสีย ซากเน่าเปื่อยทั้งหลาย เมื่อมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำฝนก็ได้ชะล้างลงสู่ทะเล เมื่อเกิดคลื่นก็เหมือนไปเขย่าสิ่งสกปรกให้เข้ากับคลื่นจนกระทั่งมันเป็นฟองแบบที่เห็น ยังกล้าเล่นกันอยู่มั้ยล่ะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น